โดยใช้สูตร Q.D =
Q3 คือ ควอไทล์ที่ 3
Q1 คือ ควอไทล์ที่ 1
ช่วงคะแนน
|
ความถี่ (f)
|
ความถี่สะสม (Cf)
|
5 – 9
10 – 14
15 – 19
20 – 24
25 – 29
30 – 34
35 - 39
|
3
4
10
15
14
10
4
|
3
7
17 - Q3
32
46 - Q1
56
60
|
N = 60 |
วิธีทำ 1. หาตำแหน่ง Q1 และ Q3สูตร Qx = L1 + I
Qx คือ ค่าควอไทล์ที่ต้องการหา
L1 คือ ขีดจำกัดล่างที่แท้จริงของชั้นคะแนนที่ควอไทล์อยู่
i คือ อัตรภาค
N คือ จำนวนข้อมูลทั้งหมด
X คือ ตำแหน่งที่ของควอไทล์
F คือ ความถี่สะสมของชั้นก่อนถึงชั้นที่ควอไทล์อยู่
f คือ ความถี่ของชั้นที่ควอไทล์อยู่ค่าของคะแนนในตำแหน่ง Qx =
Q1 ของคะแนนชุดนี้ตรงกับข้อมูลตัวนี้ = 15
Q3 ของคะแนนชุดนี้ตรงกับข้อมูลตัวนี้ = 45 2. หาค่า Q1 และ Q3
Q1 คือ ข้อมูลตัวที่ 15 ตกอยู่ในชั้นคะแนน 15 – 19 (i = 5)Q1 = 14.5 + 5 = 18.5
Q3 คือ ข้อมูลตัวที่ 45 ตกอยู่ในชั้นคะแนน 25 - 29Q3 = 24.5 + 5 = 29.14
3. นำค่า Q1 และ Q3 แทนค่าQ.D = = = 5.32
ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ คือ 5.32 อธิบายได้ว่าโดยเฉลี่ยคะแนนกระจายห่างจากคะแนนที่เป็น
มัธยฐานอยู่ 5.32
ข้อสังเกต
- การวัดการกระจายโดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ยังคงใช้คะแนนเพียง 2 ค่า คือ คะแนนในตำแหน่ง Q1 และ Q3 ทำให้การกระจายของข้อมูลที่วัดได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควร
- ใช้วัดการกระจายของข้อมูลที่มีบางค่าสูงหรือต่ำกว่าข้อมูลอื่นๆ ในชุดเดียวกัน
ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ (Quartile Deviation)
งงค่ะ T^T
ตอบลบอยากให้อธิบายให้ละเอียดกว่านี้